Instagram เตรียมทำการทดสอบการรับรองการใช้งาน NFTs

Instagram เตรียมทำการทดสอบการรับรองการใช้งาน NFTs

ผู้บริหารของ Instagram (IG) ประกาศถึงการเตรียมดำเนินการทดสอบระบบที่จะรองรับการใช้งาน NFTs และ Blockchain บนแพลตฟอร์ม (10 พ.ค. 2565) หลังจากที่ก่อนหน้านี้ Mark Zuckerberg ประธานบริหารของ Meta ที่เป็นบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มโซเซียลด้านภาพ และวิดีโอชื่อดัง Instagram (IG) ได้ประกาศถึงความต้องการเพิ่มเติมการรับรองการใช้งานของ NFTs และเทคโนโลยี Blockchain บนแพลตฟอร์มของตนเอง

โดยในเวลานี้ Adam Mosseri หัวหน้าของทาง IG ได้ทำการเปิดเผยว่า 

ตัวแพลตฟอร์มนั้น จะดำเนินการเริ่มต้นทดสอบการรองรับใช้งาน NFTs แล้วจึงทำการพัฒนาเพิ่มเติมต่อไป ซึ่ง Mosseri ได้กล่าวถึงการดำเนินการดังกล่าวว่า “เป็นจุดเริ่มต้นของการทดสอบการเก็บสะสมแบบออนไลน์ไปพร้อมกับผู้สร้างสรรค์ และนักสะสมจากสหรัฐในการแบ่งปัน NFTs บนแพลตฟอร์ม”

นอกจากนี้แล้วนั้น Mosseri ยังได้ทำการยืนยันว่า Instagram จะไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมเมื่อมีการโพสต์ หรือแบ่งปัน NFTs บนแพลตฟอร์ม อีกทั้งตัวระบบที่ว่านี้จะรองรับเทคโนโลยี Blockchain ไม่ว่าจะเป็น Ethereum และ Polygon (สกุลแลกเปลี่ยน) รวมถึง Rainbow, Metamusk, และ Trust (ระบบกระเป๋าเงินออนไลน์)

นายณฐกร จรูญโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ วีโว่ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “คนรุ่นใหม่นั้นมีความคุ้นเคยกับประสบการณ์บนโลกออนไลน์เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นอีสปอร์ต เกมบนโทรศัพท์มือถือ หรือแม้แต่การช้อปปิ้ง ดังนั้นเราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สุดเอ็กซ์คลูซีฟทางช้อปปี้ ในแคมเปญ ‘Get. Set. Turbo.’ ซึ่งเปิดโอกาสให้เกมเมอร์ชาวไทยได้สัมผัสฟีเจอร์สุดล้ำของสมาร์ทโฟนในตระกูล T series ใหม่ล่าสุด ที่พร้อมให้เป็นเจ้าของได้ในราคาสุดพิเศษ ทั้งยังได้เตรียมจัดกิจกรรม Turbo Cup Challenge กับ PUBG ที่นอกจากจะมาช่วยสร้างสีสันและประสบการณ์ความตื่นเต้นให้แก่โมบายเกมเมอร์ในภูมิภาคนี้แล้ว กิจกรรมดังกล่าวยังจะช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงและเชื่อมต่อกับผู้บริโภคได้อย่างลึกซึ้งขึ้นอีกด้วย”

โดยหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ในช่วงเปิดตัวของสมาร์ทโฟนในตระกูล T series คือการแข่งขันชิงแชมป์อีสปอร์ต vivo Turbo Cup Challenge ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้ความร่วมมือระหว่าง vivo และเกมชื่อดังอย่าง ‘PlayerUnknown’s Battlegrounds’ หรือ PUBG โดยจะจัดขึ้นในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย และเวียดนาม ซึ่งการแข่งขันดังกล่าวเป็นการตอกย้ำถึงขุมพลังความแรงของหน้าจอแบบ Turbo Screen ที่ทำให้สมาร์ทโฟน T Series ตอบโจทย์การใช้งานด้วยภาพที่คมชัดทุกการเคลื่อนไหวในทัวร์นาเมนต์นี้ โดยการแข่งขันนี้จะเริ่มต้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2565 และทีมผู้ชนะประเทศละ 4 ทีมจะมาแข่งขันกันในรอบสุดท้ายเพื่อคว้าตำแหน่ง Turbo Cup Grand Champion พร้อมชิงรางวัลรวมมูลค่าราว 700,000 บาท (20,000 เหรียญสหรัฐ)

ศิวกร สิริวงศ์ภาณุพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ช้อปปี้ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ช้อปปี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นความสำเร็จของ vivo ในการก้าวขึ้นมาเป็นแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบสำหรับนักช้อปในภูมิภาคนี้ ด้วยความล้ำสมัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในราคาที่น่าดึงดูดและเข้าถึงได้ ซึ่งนักช้อปจำนวนมากบนแพลตฟอร์มช้อปปี้นั้นนิยมเล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือ และยังใช้แพลตฟอร์มช้อปปี้เพื่อเติมเต็มประสบการณ์ด้านความบันเทิงและโซเชียล นอกเหนือจากการใช้งานแอปพลิเคชั่นช้อปปี้เพื่อซื้อสินค้า โดยช้อปปี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญ ‘Get. Set. Turbo.’ นี้จะประสบความสำเร็จและสามารถส่งมอบประสบการณ์ความสนุกที่พิเศษและไม่เหมือนใครให้กับผู้ใช้งานของเราทุกคน”

PlayStation 5 ทำ ยอดขายทั่วโลก ไปได้เกือบ 20 ล้านเครื่อง

PlayStation 5 (PS5) ทำ ยอดขายทั่วโลก ไปได้แล้วเป็นจำนวน 19.3 ล้านเครื่อง ขณะที่ PS4 นั้น สามารถทำยอดขายทะลุ 100 ล้านเครื่องแล้ว (10 พ.ค. 2565) Sony ทำการเปิดเผยยอดขายของเครื่องเล่นเกมส์ตัวล่าสุดของบริษัท – PlayStation 5 (PS5) โดยพบว่าสามารถทำ ยอดขายทั่วโลก ไปได้แล้วถึง 19.3 ล้านเครื่อง

โดยในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค. – มี.ค.) นั้น ทำยอดขายไปได้ 2 ล้านเครื่อง ซึ่งถือว่าลดลงไปจากช่วงเวลาเดียวกันของปีเดียวกัน ที่ทำไปได้ 3.3 ล้านเครื่อง (-1.3 ล้านเครื่อง)

ในขณะที่เครื่องเล่นเกมส์รุ่นก่อนหน้าอย่าง PlayStation 4 (PS4) สามารถทำยอดขายไปได้ 117.2 ล้านเครื่อง (ตลอดช่วงอายุ) และ 0.1 ล้านเครื่องในช่วงที่ 3 เดือนที่ผ่านมา โดยถือว่าลดลงไป 0.9 ล้านเครื่องจากปีก่อนหน้า

นอกจากนี้แล้วสถิติอื่น ๆ ที่น่าสนใจนั้นก็ได้แก่

– มีผู้สมัครใช้บริการของ PlayStation Plus ไปแล้ว 47.4 ล้านราย โดยลดลงไปจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 0.2 ล้านราย (47.6 ล้านราย)

– ยอดขายรวมทั้งหมดของซอฟต์แวร์บนแพลตฟอร์ม PS4 – PS5 เมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 นั้นอยู่ที่ 70.5 หน่วย มากกว่าปีก่อนหน้า 9.1 ล้านหน่วย (61.4 ล้านหน่วย) โดยภายในจำนวนที่ว่า เป็นซอฟต์แวร์เฉพาะสำหรับ PlayStation 14.5 ล้านหน่วย (มากกว่าเดิม 6.6 ล้านหน่วย = 7.9 ล้านหน่วย) 

– และอัตราส่วนภายในยอดขายซอฟต์แวร์ทั้งหมดนั้น 71% มาจากการซื้อแบบออนไลน์ (Digital) โดยน้อยกว่าปีก่อนหน้าที่ทำไปได้ 79%

ในท้ายที่สุดนั้น BioWare ออกมายืนยันแล้วว่ากำลังมุ่งทำงานพัฒนาตัวเกมส์ภาคต่อไปอยู่ ทำให้เราก็ได้แค่รอติดตามกันอย่างใกล้ชิด และเตรียมใจกับข่าวสารความคืบหน้าของเกมส์นี้อย่างต่อเนื่อง

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า