เกิดเหตุอุกอาจขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่คนร้าย สาดน้ำกรด ใส่ประชาชนที่กำลังสัญจร รถไฟใต้ดินญี่ปุ่น ท่ามกลางความรักษาปลอดภัยที่เน้นหนา เพื่อรับมือพาราลิมปิก เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม สำนักข่าว เกียวโด รายงานว่า มีชายหญิงรวมสองคนได้รับบาดเจ็บหลังถูกกรดสาดเข้าใส่ที่บริเวณสถานีรถไฟใต้ดินกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงค่ำของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นวันที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเนื่องจากเป็นวันที่มีพิธีเปิดมหกรรมกีฬาพาราลิมปิก
เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าผู้ได้รับบาดเจ็บชายวัย 22 ปีมีแผลไหม้ที่บริเวณใบหน้าและหัวไหล่
ขณะที่หญิงวัย 34 ปีได้รับบาดเจ็บบริเวณขา ซึ่งทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าแผลของชายวัย 22 ปีรุนแรงกว่าผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราย ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งตามล่าผู้ต้องสงสัย โดยผู้ต้องสงสัยมีส่วนสูง 175 เซนติเมตร อายุราวๆ 30-50 ปี และสวมหน้ากากในระหว่างก่อเหตุ
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่มี ชาวญี่ปุ่นวัย 36 ปี ลงมือก่อเหตุไล่แทงผู้โดยสารบนรถไฟใกล้สถานี เซโจกาคุเอน เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสิบราย โดยในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเป็นช่วงที่มีเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย เนื่องจากเป็นช่วงที่มีการแข่งมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในกรุงโตเกียว
ซึ่งทางทาเคดะระบุว่า ได้แจ้งบริษัทโมเดอร์นาให้ทำการตรวจสอบวัคซีนเร่งด่วน ขณะที่ทางโมเดอร์นายังไม่ได้ออกให้ความเห็นเรื่องนี้แต่อย่างใด โดยทางการญี่ปุ่นจะเร่งหาวัคซีนทางเลือกเพิ่มเติม เพื่อทดแทนวัคซีนโมเดอร์นาที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้
สื่อต่างชาติเปิดเผยว่าได้รับจดหมาย ซึ่งระบุว่า ตาลีบัน ได้สั่งประหารชีวิต ล่ามกองทัพสหรัฐฯ แม้เคยประกาศนิรโทษกรรมประชาชน เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม สำนักข่าว CNN เปิดเผยว่าทางสำนักข่าวได้รับจดหมายจากประชาชนที่อาศัยอยู่ในอัฟกานิสถานเปิดเผยว่า กองกำลังตาลีบัน ได้ตัดสินปัญหาชีวิตสองพี่น้องชาวอัฟกานิสถานในให้ที่พำนักกับพี่น้องที่ทำหน้าที่เป็นล่ามให้กับกองทัพสหรัฐอเมริกา
โดยทาง CNN ได้รับจดหมายทั้งหมดสามฉบับ โดยฉบับแรกเป็นการเรียกให้ผู้ต้องหาทั้งสองเข้ารับฟังคำตัดสิน ส่วนฉบับที่สอง ระบุว่าผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะปรากฏตัวตามหมายเรียก และฉบับที่สามระบุว่าการทำงานให้กับกองทัพสหรัฐฯนำมาสู้การบุกรุกอัฟกานิสถาน พร้อมระบุว่าเขามีความผิดที่ไม่ยอมปรากฏต่อศาล ทำให้อัฟกานิสถานตัดสินประหารชีวิตทั้งสอง
ทางสำนักข่าวปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวตนของผู้ต้องหา เพื่อความปลอดภัยของครอบครัวและผู้ต้องหา นอกจากนี้ยังไม่มีการเปิดเผยด้วยว่าชะตาของผู้ต้องหาเป็นเช่นไร
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นาย ซาบิฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกของกลุ่มตาลีบันได้แถลงหลังยึดกรุงคาบูลเมืองของอัฟกานิสถานได้สำเร็จ ซึ่งในการแถลงครั้งนั้น นายมูจาฮิดระบุว่าจะไม่มีประชาชนต้องตกเป็นภัย พร้อมอภัยโทษประชาชนที่เคยทำงานให้กับกองกำลังต่างชาติทั้งหมด
งง! หนุ่มเปลือย แทง หนุ่มเปลือย ข้างถนนสหรัฐฯ
กลายเป็นเหตุสลดเมื่อ หนุ่มเปลือย แทง หนุ่มเปลือย อีกคน ก่อนใช้มีดปาดคอตนเอง ข้างถนนในประเทศสหรัฐอเมริกา ยังไม่ทราบมูลเหตุจูงใจ เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เว็บไซต์ Kiro7 รายงาน เหตุประหลาดที่เกิดขึ้นในเมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงประมาณ 8 นาฬิกา ของวันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่าทางตำรวจได้รับรายงานเสียรบกวนในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งพยานเล่าว่าเขาเห็นชายเปลือยใช้ของมีคมแทงชายเปลือยอีกคนข้างถนน และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่บริเวณหัวมุมของอาคาร ก็พบชายเปลือยอีกคนใช้มีดปาดคอของตนเอง
ซึ่งชายเปลือยทั้งสองถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยชายที่ใช้มีดปาดคอของตนเองเสียเลือดมาก และไม่ตอบสนอง ขณะนี้ยังไม่มีการเปิดเผยถึงตัวตนของชายทั้งสอง รวมถึงมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้
FDA อนุมัติ ไฟเซอร์ อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนรับวัคซีนโควิด ขณะที่ไบเดนบอกประชาชนว่านี่คือเวลาที่จะรับวัคซีนโควิด เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า องค์การอาหารและยา หรือ FDA ได้อนุมัติวัคซีนยี่ห้อไฟเซอร์อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นวัคซีนยี่ห้อแรกในประเทศสหรัฐอเมริกาที่ได้รับการอนุมัติในรูปแบบดังกล่าว
โดยในเอกสารของ FDA ระบุว่าจากการตรวจสอบข้อมูลของผู้รับวัคซีนราวๆ 44,000 คนพบว่า วัคซีนไฟเซอร์ หรือ ที่จะถูกวางขายในตลาดด้วยชื่อโคเมอร์เนตี มีประสิทธิภาพป้องกันโควิดถึงร้อยละ 91 ซึ่งทางขณะกรรมการ FDA มั่นใจว่าวัคซีนยี่ห้อมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และมีกระบวนการผลิตที่ผ่านมาตรฐาน
การอนุมัติในครั้งนี้จะส่งผลให้ผู้ว่าจ้างหรือองค์กรต่างๆ บังคับให้พนักงานเข้ารับวัคซีนได้มากขึ้น และเป็นการแก้ปัญหาความไม่เชื่อในในวัคซีนต้านโควิดที่เกิดขึ้นในหมู่ประชาชนชาวสหรัฐฯ
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง